วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2552



โครงการวิจัยที่ 1 ผลิตภัณฑ์แผ่นประกอบ (Particleboard) จากเส้นใยฟางข้าวและเศษยางรถยนต์ ประเทศไทยกำลังเผชิญปัญหามลภาวะสิ่งแวดล้อม เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆทั่วโลก สาเหตุสำคัญประการหนึ่งของปัญหาดังกล่าว คือขยะของเหลือใช้ที่มาจากเกษตรกรรม และของเสียจากโรงงาน และจากปัญหาไม้จากป่าไม้ธรรมชาติที่ลดน้อยลง จึงมีการศึกษาค้นคว้าและพัฒนาเทคโนโลยีในการนำวัสดุเหลือใช้จากการเกษตรกรรม เช่นฟางข้าว และของเสียจากการใช้งาน เช่นเศษยางรถยนต์ มาใช้ประโยชน์ใหม่ ในการทำวัสดุ ก่อสร้างทดแทนไม้ ซึ่งนอกจากช่วยลดปัญหาการตัดไม้ทำลายป่าแล้ว ยังลดปัญหาเรื่องขยะหรือของเสีย และยังเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับขยะและเศษวัสดุเหลือใช้จากธรรมชาติอีกด้วย รูปที่ 1 แผ่นประกอบ (Particleboard)จากเส้นใยฟางข้าวและเศษยางรถยนต์โครงการนี้เป็นการนำเสนอผลงานที่ได้จากการวิจัยค้นคว้าในการผลิตแผ่นประกอบจากฟางข้าวและเศษยางรถยนต์ และตัวประสานไดฟีนอลมีเทน ไดไอโซไซยาเนต (pMDI) ซึ่งเมื่อใช้ปริมาณของเศษฟางมากจะมีความแข็งใช้ทดแทนไม้แผ่นเรียบได้ และเมื่อมีปริมาณยางมาก แผ่นงานสามารถดัดโค้งได้ เก็บเสียงได้ จึงสามารถนำมาใช้งานด้านงานตกแต่งในสำนักงานและงานที่ต้องการเก็บเสียงได้



กรอบรูปฟางข้าว
จะมีใครสักกี่คน ที่เห็นประโยชน์จากตอซังข้าว หรือไม่ก็ถูกไถกลบจนกลายเป็นปุ๋ย แท้จริงแล้วยังมีประโยชน์ และสามารถสร้างรายได้ให้กับผู้คนในชุมชนได้เป็นอย่างดี หากมีแนวคิดที่แปลกใหม่ผสมผสานกับไอเดียที่นำเสนอจากภูมิปัญญาท้องถิ่นเข้าไปในเนื้องาน
กลุ่มศิลปะ ประดิษฐ์ฟางข้าว ม.7 บ้านโศกแต้ อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น ซึ่งนำโดย หลวงพ่อมหาสุพล ปุณญพะโร ผู้ริเริ่มแนวคิดสร้างสรรค์ในการประกอบการประดิษฐ์กรอบรูป โดยใช้ฟางข้าวมาเป็นวัตถุดิบ ซึ่งหลวงพ่อรูปนี้ได้แนวคิดมาจากศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิต จึงนำมาเผยแพร่ให้กับชาวบ้านโศกแต้ได้ฝึกหัดเรียนรู้ จนกลายเป็นอาชีพเสริมที่สร้างรายได้ให้กับชุมชน
จังกร ทิพย์แสง วัย 57 ปี ประธานกลุ่มศิลปะประดิษฐ์ฟางข้าว เล่าว่า ในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ได้มีการจัดตั้งกลุ่มสตรีขึ้นภายใต้ชื่อ กลุ่มศิลปะประดิษฐ์ฟางข้าว โดยมีชาวบ้านบ้านโศกแต้ที่สนใจเข้าร่วม 19 ราย จากนั้นได้เรียนรู้กับหลวงพ่อมหาสุพล ถ่ายทอดกลวิธีการทำตลอดจนการคัดสรรค์วัตถุดิบที่จะนำมาทำกรอบรูป
“วัตถุดิบหลักในการประดิษฐ์กรอบรูปฟางข้าว ก็คือตอซังข้าว ที่ชาวนาได้เก็บเกี่ยวรวงข้าวเรียบร้อยแล้ว จากนั้นเราก็รอให้ตอซังข้าวแห้งพอเหมาะ หรืออาจจะเก็บเกี่ยวแล้วนำมาตากแห้งก็ได้แต่ตอซังที่ได้จากการเก็บเกี่ยวมานั้น จะทำให้ตอซังข้าวไม่เหนียว และนุ่มมากนัก”
เขายังเล่าถึงกลวิธีการทำกรอบรูปอีกว่าเมื่อได้ตังซอข้าวขนาดที่พอเหมาะแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ การรีดตอซังข้าวไห้กลายเป็นแผ่นเรียบ เพื่อนำไปติดกาวกับพื้นหลังของกรอบรูปในลำดับต่อไป สีที่ได้จากตอซังข้าวนั้นจะเป็นสีเหลืองออกน้ำตาลและเมื่อเราต้องการเน้นสีดำก็ให้นำไปลนไฟ จนได้สีที่ต้องการ จากนั้นก็นำไปติดกาวลงกรอบรูปที่เราได้ออกแบบลวดลายไว้ อาทิรูปบ้านทรงไทย รูปพระธาตุขามแก่น รูปพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระราชีนี รูปไดโนเสาร์ รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญในจังหวัดขอนแก่น
สำหรับกรอบรูปจากฟางข้าวนั้น ขายราคาประมาณ 300-500 บาท โดยขนาด 8x10 นิ้วนั้นขายในราคา 300 บาท ส่วนขนาด 10x15 นิ้วนั้นขายในราคา 500 บาท ตั้งแต่การก่อตั้งกลุ่มมาทางกลุ่มมีรายได้จากการขายสินค้ามากถึง 15,000 บาท ซึ่งนับว่าเป็นการสร้างรายได้จากภูมิปํญญาของท้องถิ่น
ประธานกลุ่มศิลปะปรดิษฐ์ฟางข้าว เล่าถึงปัญหาและอุปสรรคในการทำสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ว่า ที่ผ่านมาประสบปัญหาในเรื่องการขาดแคลนวัตถุดิบ เนื่องจากช่วงเวลาที่ก่อตั้งกลุ่มนั้น เป็นฤดูเริ่มต้นของการทำนา ทำให้ตอซังข้าวที่จะนำมาผลิตกรอบรูปขาดแคลนอีกทั้งเรายังขาดบุคลากรที่จะออกแบบกรอบรูปใหม่ๆ เพราะในขนาดนี้มีแต่รูปเดิม ไม่หลากหลายมากนัก รวมทั้งตลาดขายสินค้ายังไม่มี เนื่องจากเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ตั้งขึ้นใหม่
แม้ว่ากรอบรูปฟางจะยังไม่ได้รับรางวัลโอท็อป แต่ในขณะนี้เราได้ส่งผลิตภัณฑ์เข้าประกวดในงาน การคัดสรรสุดยอดหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ที่ จ.ขอนแก่น ซึ่งเชื่อว่าหากได้รับรางวัลโอท็อปและตราสัญลักษณ์ประจำจังหวัด คาดว่าจะสามารถขยายตลาดได้มากกว่านี้
“ถึงแม้ว่าในขนาดนี้ จะยังไม้ได้รับรางวัลโอท็อปก็ตาม แต่ก็มีลูกค้ามาติดต่อเพื่อที่จะไปขายต่างประเทศ เนื่องจากลูกค้าบอกว่า ชาวต่างชาติชอบสิ่งเป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะสินค้าจากภาคอีสาน ที่มีลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัว บ่งบอกถึงวิถีชีวิต ความเป็นอยู่และศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่น ซึ่งในขนาดนี้เราก็รอให้เกษตรกรเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จ จึงมีวัตถุดิบก่อนที่จะส่งขายต่างประเทศอีกต่อไป” จังกรเล่า
จากตอซังข้าวที่ไร้ประโยชน์ นำมาเรียงร้อยเป็นกรอบรูปฟางข้าวบวกกับการออกแบบลวดลายที่ลงตัว ทำให้สมาชิกศิลปะประดิษฐ์ฟางข้าว มีรายได้เสริมในฤดูที่ว่างเว้นจากการทำนา จากฝ่ามือที่หยาบกร้านแต่กลับบรรจงกรอบรูปอย่างสวยงาม และในไม่ช้ากรอบรูปจากบ้านโศกแต้คงได้ไช้คำว่า สินค้าโกอินเตอร์ อย่างแน่นอน




  • โครงการวิจัยที่ 1 ผลิตภัณฑ์แผ่นประกอบ (Particleboard) จากเส้นใยฟางข้าวและเศษยางรถยนต์

    ประเทศไทยกำลังเผชิญปัญหามลภาวะสิ่งแวดล้อม เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆทั่วโลก สาเหตุสำคัญประการหนึ่งของปัญหาดังกล่าว คือขยะของเหลือใช้ที่มาจากเกษตรกรรม และของเสียจากโรงงาน และจากปัญหาไม้จากป่าไม้ธรรมชาติที่ลดน้อยลง จึงมีการศึกษาค้นคว้าและพัฒนาเทคโนโลยีในการนำวัสดุเหลือใช้จากการเกษตรกรรม เช่นฟางข้าว และของเสียจากการใช้งาน เช่นเศษยางรถยนต์ มาใช้ประโยชน์ใหม่ ในการทำวัสดุ ก่อสร้างทดแทนไม้ ซึ่งนอกจากช่วยลดปัญหาการตัดไม้ทำลายป่าแล้ว ยังลดปัญหาเรื่องขยะหรือของเสีย และยังเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับขยะและเศษวัสดุเหลือใช้จากธรรมชาติอีกด้วย

โครงการนี้เป็นการนำเสนอผลงานที่ได้จากการวิจัยค้นคว้าในการผลิตแผ่นประกอบจากฟางข้าวและเศษยางรถยนต์ และตัวประสานไดฟีนอลมีเทน ไดไอโซไซยาเนต (pMDI) ซึ่งเมื่อใช้ปริมาณของเศษฟางมากจะมีความแข็งใช้ทดแทนไม้แผ่นเรียบได้ และเมื่อมีปริมาณยางมาก แผ่นงานสามารถดัดโค้งได้ เก็บเสียงได้ จึงสามารถนำมาใช้งานด้านงานตกแต่งในสำนักงานและงานที่ต้องการเก็บเสียงได้


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น